วันจันทร์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

แปลเพลง奶奶 โดย魏如萱

 

แปลเพลง奶奶 โดย魏如

 

ももたろうさ ももたろうさ
从小你唱歌给我听
可不可以买你的不快乐
现在换我唱歌给你听

โมะโมะทาโระซัง โมะโมะทาโระซัง
คุณยายเคยร้องเพลงนี้ให้หนูฟังตั้งแต่ยังเด็ก
นี่ ขอหนูซื้อความทุกข์ของคุณยายไปโยนทิ้งได้มั้ย
ตอนนี้เปลี่ยนมาให้หนูเป็นคนร้องเพลงให้ฟังนะ


听一听 你怎么就度估了

แต่ทำไมพอฟังๆ ไปแล้วยายจะหลับแล้วล่ะคะ

奶奶 最近有睡好吗 有梦到阿公吗
是不是又偷偷哭了啊
你啊多愁善感 可是又最勇敢

คุณยายคะ ช่วงนี้คุณยายนอนหลับมั้ย ยังฝันถึงคุณตาอยู่รึเปล่า
ไม่ใช่ว่าแอบไปร้องไห้อีกนะ
คุณยายน่ะ เป็นคนอ่อนไหวมาก แต่ก็เป็นคนเข้มแข็งที่สุดเลย


奶奶 你有吃饱吗 我最爱吃你做的菜
没有人比你还要厉害
又会织毛线 又会带小孩

คุณยายคะ คุณยายกินข้าวบ้างมั้ย หนูชอบกินข้าวที่คุณยายทำที่สุดเลย
ไม่มีใครเก่งเท่าคุณยายอีกแล้ว
ทั้งถักไหมพรมได้ ทั้งเลี้ยงลูกเลี้ยงหลานได้ด้วย


お母さんみたいね
本当にありがとうね
你要长命你要百岁
你要健健康康快快乐乐ㄋㄟ

คุณยายเป็นเหมือนแม่หนูอีกคนเลย
หนูอยากขอบคุณคุณยายมากจริงๆ
หนูขอให้คุณยายอายุยืนร้อยๆ ปี
ขอให้คุณยายสุขภาพแข็งแรงและมีแต่ความสุขนะคะ


太阳みたいね
月みたいね
你最好命 你最幸运
你要平平安安无忧无虑ㄋㄟ

คุณยายเป็นเหมือนดวงอาทิตย์
และเป็นเหมือนพระจันทร์ของหนู
หนูขอให้คุณยายมีแต่ความสุข มีแต่ความโชคดี
ขอให้คุณยายมีชีวิตที่สงบสุขไม่มีความทุกข์อะไรมากล้ำกราย


奶奶 笑一个
按靓喔 按靓喔
十八的姑娘一朵花 一朵

คุณยายคะ ยิ้มหน่อยสิคะ
สวยมากค่ะ สวยมากเลย
เด็กสาวอายุสิบแปดช่างงดงามราวกับดอกไม้แย้มบาน ราวกับดอกไม้แย้มบาน


-----------------------

เพลงนี้มีประมาณ 3 ภาษาในเพลงเดียว ทั้งภาษาจีนกลาง(ไต้หวันเรียก 华语) ภาษาญี่ปุ่น (日本) และภาษาฮักกา (客语) ที่เป็นหนึ่งในภาษาถิ่นของไต้หวันด้วย 

ซึ่งเพลงนี้พูดถึงคุณยาย ซึ่งเป็นคนเฒ่าคนแก่ การใช้ภาษาฮักกาซึ่งเป็นภาษาถิ่นก็ดูปกติ หรือการร้องคู่กับจีนกลางที่สื่อถึงความเป็นหลานหรือคนรุ่นใหม่ก็ไม่ได้แปลกอะไร แต่ทำไมถึงต้องมีภาษาญี่ปุ่น? 

การใช้ภาษาญี่ปุ่นในเพลงอาจจะอธิบายได้ว่า คนเฒ่าคนแก่ของไต้หวันมีความผูกพันกับญี่ปุ่นมานาน เนื่องจากไต้หวันเคยตกอยู่ภายใต้การปกครองของญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ในช่วงที่ญี่ปุ่นปกครองไต้หวัน มีการบังคับให้เรียนภาษาญี่ปุ่น ห้ามพูดภาษาท้องถิ่น บ้านเรือนถูกสร้างตามแบบของญี่ปุ่น วิถีชีวิตของคนไต้หวันคล้ายกับคนญี่ปุ่นด้วยสาเหตุนี้ ดังนั้นคนไต้หวันในยุคนั้นหลายคนจึงพูดญี่ปุ่นได้ มีชื่อญี่ปุ่นกันด้วย และยังหลงเหลือความเป็นญี่ปุ่น-ไต้หวันมาจนถึงทุกวันนี้


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น