strawberries and cigarettes By Troye Sivan Ost.Love,Simon
Remember when we first met?
คุณยังจำครั้งแรกที่เราเจอกันได้ไหม?
You said "light my cigarette"
คุณบอกผมว่า “จุดบุหรี่ให้ฉันที”
So I lied to my mom and dad
ผมถึงได้โกหกพ่อกับแม่
I jumped the fence and I ran
กระโดดข้ามรั้วและวิ่งหนีออกมา
*ทรอยพาเราเดินทางไปด้วยกันกับเขาในเพลงนี้ แสดงให้เราเห็นสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เขาพอจะจำได้เกี่ยวกับคนรักของเขาทั้งคำถามที่คนรักชอบถาม ‘Remember when we first met?’ หรือการเดินทางของพวกเขา...และมันถูกพูดถึงอีกครั้งในช่วงกลางเพลงเกี่ยวกับกลิ่นกายและรสชาติของคนรัก ประโยค ‘Light my cigarette’ อาจตีความได้หมายถึงการจุดไฟความปรารถนาระหว่างคู่รัก
But we couldn't go very far
แต่เราก็ไม่อาจหนีไปได้ไกลมาก
'Cause you locked your keys in your car
เพราะคุณดันลืมกุญแจไว้ในรถของคุณซะเอง
So you sat and stared at my lips
เพราะงั้นคุณเลยนั่งลงและจับจ้องมาที่ริมฝีปากของผม
And I could already feel your kiss
แล้วผมก็รู้สึกถึงรสจูบของคุณ
คุณยังจำครั้งแรกที่เราเจอกันได้ไหม?
You said "light my cigarette"
คุณบอกผมว่า “จุดบุหรี่ให้ฉันที”
So I lied to my mom and dad
ผมถึงได้โกหกพ่อกับแม่
I jumped the fence and I ran
กระโดดข้ามรั้วและวิ่งหนีออกมา
*ทรอยพาเราเดินทางไปด้วยกันกับเขาในเพลงนี้ แสดงให้เราเห็นสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เขาพอจะจำได้เกี่ยวกับคนรักของเขาทั้งคำถามที่คนรักชอบถาม ‘Remember when we first met?’ หรือการเดินทางของพวกเขา...และมันถูกพูดถึงอีกครั้งในช่วงกลางเพลงเกี่ยวกับกลิ่นกายและรสชาติของคนรัก ประโยค ‘Light my cigarette’ อาจตีความได้หมายถึงการจุดไฟความปรารถนาระหว่างคู่รัก
But we couldn't go very far
แต่เราก็ไม่อาจหนีไปได้ไกลมาก
'Cause you locked your keys in your car
เพราะคุณดันลืมกุญแจไว้ในรถของคุณซะเอง
So you sat and stared at my lips
เพราะงั้นคุณเลยนั่งลงและจับจ้องมาที่ริมฝีปากของผม
And I could already feel your kiss
แล้วผมก็รู้สึกถึงรสจูบของคุณ
Long nights, daydreams
ค่ำคืนที่ยาวนานและฝันกลางวัน
Sugar and smoke rings, I've been a fool
น้ำตาลและควันบุหรี่ ผมช่างโง่เง่าเหลือเกิน
*ทรอยใช้คำว่ากลางคืนและกลางวันเพื่อแสดงให้เห็นความรู้สึกที่ขัดแย้งกันในตัวเขา และยังมีคำว่าน้ำตาลและควันบุหรี่อีกด้วย แสดงให้เห็นธีมของความทรงจำเล็กๆ น้อยๆ ของคนรักที่เขายังจำได้
But strawberries and cigarettes always taste like you
แต่สตรอเบอร์รี่และบุหรี่ล้วนมีรสชาติเหมือนกับคุณ
Headlights, on me
ไฟหน้าสาดส่องมาที่ผม
Racing to 60, I've been a fool
ขับรถด้วยความเร็ว 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ผมช่างโง่เขลามาตลอด
But strawberries and cigarettes always taste like
แต่สตรอเบอร์รี่และบุหรี่ล้วนมีรสชาติราวกับ
ค่ำคืนที่ยาวนานและฝันกลางวัน
Sugar and smoke rings, I've been a fool
น้ำตาลและควันบุหรี่ ผมช่างโง่เง่าเหลือเกิน
*ทรอยใช้คำว่ากลางคืนและกลางวันเพื่อแสดงให้เห็นความรู้สึกที่ขัดแย้งกันในตัวเขา และยังมีคำว่าน้ำตาลและควันบุหรี่อีกด้วย แสดงให้เห็นธีมของความทรงจำเล็กๆ น้อยๆ ของคนรักที่เขายังจำได้
But strawberries and cigarettes always taste like you
แต่สตรอเบอร์รี่และบุหรี่ล้วนมีรสชาติเหมือนกับคุณ
Headlights, on me
ไฟหน้าสาดส่องมาที่ผม
Racing to 60, I've been a fool
ขับรถด้วยความเร็ว 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ผมช่างโง่เขลามาตลอด
But strawberries and cigarettes always taste like
แต่สตรอเบอร์รี่และบุหรี่ล้วนมีรสชาติราวกับ
Blue eyes, black jeans
นัยน์ตาสีฟ้า กางเกงยีนส์สีดำ
Lighters and candy, I've been a fool
ไฟแช็กและลูกกวาด ผมโง่เขลามาตลอด
But strawberries and cigarettes always taste like you
แต่สตรอเบอร์รี่และบุหรี่ล้วนมีรสชาติคล้ายกับคุณ
*ทรอยหยิบยกสิ่งของที่เป็นของหวานและไร้เดียงสาแบบเด็กๆ เช่นน้ำตาล ลูกกวาดและสตรอเบอร์รี่มาคู่กับสิ่งของที่เป็นของผู้ใหญ่เช่นไฟแช็ก ควันบุหรี่และบุหรี่ ทำให้เราเห็นว่าคนรักของทรอยเป็นผู้ใหญ่และโตกว่าเขา แต่ความรักของพวกเขาก็ยังหอมหวานและบริสุทธิ์
นัยน์ตาสีฟ้า กางเกงยีนส์สีดำ
Lighters and candy, I've been a fool
ไฟแช็กและลูกกวาด ผมโง่เขลามาตลอด
But strawberries and cigarettes always taste like you
แต่สตรอเบอร์รี่และบุหรี่ล้วนมีรสชาติคล้ายกับคุณ
*ทรอยหยิบยกสิ่งของที่เป็นของหวานและไร้เดียงสาแบบเด็กๆ เช่นน้ำตาล ลูกกวาดและสตรอเบอร์รี่มาคู่กับสิ่งของที่เป็นของผู้ใหญ่เช่นไฟแช็ก ควันบุหรี่และบุหรี่ ทำให้เราเห็นว่าคนรักของทรอยเป็นผู้ใหญ่และโตกว่าเขา แต่ความรักของพวกเขาก็ยังหอมหวานและบริสุทธิ์
Remember when you taught me fate
ยังจำช่วงเวลาที่คุณได้สอนผมให้เชื่อเรื่องโชคชะตา
Said it'd all be worth the wait
คุณเคยบอกว่ามันคุ้มค่าที่จะรอคอย
Like that night in the back of the cab
เหมือนกับค่ำคืนนั้นบนหลังรถแท็กซี่
When your fingers walked in my hand
เมื่อนิ้วมือของคุณท่องเที่ยวอยู่บนมือของผม
*ท่อนนี้อธิบายถึงคืนที่พวกเขาสองคนกุมมือกันบนรถแท็กซี่ และความรักของทรอยก็ได้รับการตอบรับในที่สุด
ยังจำช่วงเวลาที่คุณได้สอนผมให้เชื่อเรื่องโชคชะตา
Said it'd all be worth the wait
คุณเคยบอกว่ามันคุ้มค่าที่จะรอคอย
Like that night in the back of the cab
เหมือนกับค่ำคืนนั้นบนหลังรถแท็กซี่
When your fingers walked in my hand
เมื่อนิ้วมือของคุณท่องเที่ยวอยู่บนมือของผม
*ท่อนนี้อธิบายถึงคืนที่พวกเขาสองคนกุมมือกันบนรถแท็กซี่ และความรักของทรอยก็ได้รับการตอบรับในที่สุด
Next day, nothin' on my phone
วันต่อมาโทรศัพท์ของผมก็นิ่งสนิท
But I can still smell you on my clothes
แต่ผมยังได้กลิ่นคุณบนเสื้อผ้าของผม
Always hoping things would change
หวังว่าทุกอย่างจะเปลี่ยนแปลงมาตลอด
But we went right back to your games
แต่เราก็กลับไปในเกมของคุณอีกครั้ง
วันต่อมาโทรศัพท์ของผมก็นิ่งสนิท
But I can still smell you on my clothes
แต่ผมยังได้กลิ่นคุณบนเสื้อผ้าของผม
Always hoping things would change
หวังว่าทุกอย่างจะเปลี่ยนแปลงมาตลอด
But we went right back to your games
แต่เราก็กลับไปในเกมของคุณอีกครั้ง
[Hook]
And even if I run away
หากผมจะวิ่งหนีออกไป
Give my heart a holiday
ให้หัวใจได้มีวันหยุดพัก
Still strawberries and cigarettes always taste like you
สตรอเบอร์รี่และบุหรี่ก็ยังคงมีรสชาติเหมือนคุณ
You always leave me wanting more
คุณมักจะปล่อยให้ผมเรียกร้องให้มากขึ้นเรื่อย ๆ
I can't shake my hunger for
ผมไม่สามารถหลีกเลี่ยงความปรารถนาของตัวเองไปได้
*ทรอยอ้างอิงการเสพติดของเขาไว้ที่ท่อนนี้ ไม่ว่าจะเป็นการติดบุหรี่หรือการเสพติดความรักจากคนรักของเขาที่ไม่ว่าจะได้รับมากเท่าไรก็ไม่เคยพอ มันเหมือนเป็นวงจรแห่งความปรารถนาที่วนเวียนอยู่ไม่มีวันสิ้นสุด ทั้งบุหรี่หรือการได้ใช้เวลาร่วมกับคนๆ นี้มากขึ้นอีกแค่วินาทีเดียวก็ตาม
Strawberries and cigarettes always taste like you
สตรอเบอร์รี่และบุหรี่ก็ยังมีรสชาติเหมือนกับคุณ
Yeah, they always taste like you
ใช่ พวกมันมีรสชาติเหมือนกับคุณ
*ทรอยกำลังอธิบายว่าอะไรก็ตามที่เขาเคยทำด้วยความเคยชินและไม่ได้มีความหมายอะไรต่อเขาเลย แต่ตอนนี้มันกลับมีรสชาติเหมือนกับผู้ชายที่เขาเคยตกหลุมรัก เพราะความทรงจำของพวกเขาประกอบไปด้วยการกินสตรอเบอร์รี่ การสูบบุหรี่หรือการทำอะไรธรรมดาๆ ร่วมกัน
หากผมจะวิ่งหนีออกไป
Give my heart a holiday
ให้หัวใจได้มีวันหยุดพัก
Still strawberries and cigarettes always taste like you
สตรอเบอร์รี่และบุหรี่ก็ยังคงมีรสชาติเหมือนคุณ
You always leave me wanting more
คุณมักจะปล่อยให้ผมเรียกร้องให้มากขึ้นเรื่อย ๆ
I can't shake my hunger for
ผมไม่สามารถหลีกเลี่ยงความปรารถนาของตัวเองไปได้
*ทรอยอ้างอิงการเสพติดของเขาไว้ที่ท่อนนี้ ไม่ว่าจะเป็นการติดบุหรี่หรือการเสพติดความรักจากคนรักของเขาที่ไม่ว่าจะได้รับมากเท่าไรก็ไม่เคยพอ มันเหมือนเป็นวงจรแห่งความปรารถนาที่วนเวียนอยู่ไม่มีวันสิ้นสุด ทั้งบุหรี่หรือการได้ใช้เวลาร่วมกับคนๆ นี้มากขึ้นอีกแค่วินาทีเดียวก็ตาม
Strawberries and cigarettes always taste like you
สตรอเบอร์รี่และบุหรี่ก็ยังมีรสชาติเหมือนกับคุณ
Yeah, they always taste like you
ใช่ พวกมันมีรสชาติเหมือนกับคุณ
*ทรอยกำลังอธิบายว่าอะไรก็ตามที่เขาเคยทำด้วยความเคยชินและไม่ได้มีความหมายอะไรต่อเขาเลย แต่ตอนนี้มันกลับมีรสชาติเหมือนกับผู้ชายที่เขาเคยตกหลุมรัก เพราะความทรงจำของพวกเขาประกอบไปด้วยการกินสตรอเบอร์รี่ การสูบบุหรี่หรือการทำอะไรธรรมดาๆ ร่วมกัน
-----------------------------------------------------------------
เนื้อเพลงและบทวิเคราะห์ : https://genius.com/14103295
เอาจริงว่าไปดูเลิฟไซม่อนเพราะชอบเพลงนี้เลยนะ แล้วก็ชอบบทวิเคราะห์นี้มากๆ เลยเอามาแปลเล่นๆ สนุกๆ ชอบความคิดที่ว่าเอาของสองสิ่งที่ไม่ได้ใกล้เคียงกันเลยมาพูดถึงในบริบทเดียวกันเช่นบุหรี่กับสตรอเบอร์รี่ ไฟแช็กกับลูกกวาด มันแสดงให้เห็นว่าเราไม่มีอะไรเหมือนกันเลย แต่เราก็รักกันได้ นี่ว่าผู้คนในเว็บจีเนียสคือจีเนียสกันจริงอ่ะ วิเคราะห์เหมือนเป็นคนแต่งเพลงเอง แต่จริงๆ บางเพลงเจ้าของเพลงก็มาเขียนบทวิเคราะห์ให้เองเลย
นี่ว่าเพลงของทรอยมีเสน่ห์มาก เป็นเพลงที่สวยงามและลึกล้ำมากจนเหมือนกับว่าเขากำลังวาดรูปด้วยสีน้ำมันอยู่ อย่างเพลงนี้ในความคิดนี่มันคงเป็นสีแดง เขาวาดรูปด้วยสีแดง แต่งแต้มจนผ้าใบสีขาวเต็มไปด้วยอารมณ์และหัวใจของงานศิลปะที่อ่อนไหว มันสวยมากนะ สวยจนอยากจะร้องไห้แน่ะ
คอนเซปของเพลงนี้ที่ไปอ่านในเว็บจีเนียสมา เขาบอกว่ามันคือความทรงจำเล็กๆ น้อยๆ ที่ทรอยมีต่อคนรักของเขาแหละ เขาพูดถึงอะไรเล็กๆ น้อยๆ ทั้งนั้นเลยนะ ทั้งกลิ่นกายของผู้ชายคนนั้น ทั้งรสชาติจากริมฝีปาก ทั้งควันบุหรี่ที่พวยพุ่งออกมาจากริมฝากของผู้ชายคนนั้น ถึงได้บอกว่าเพลงของทรอยมันสวยมาก...
แต่นั่นแหละ...
มันก็เหงามากเหมือนกัน...
มาเจอโดยบังเอิญ เขียนดีจังเลยค่ะ มีเพจให้ติดตามมั้ยคะ
ตอบลบ